10 มารยาทที่ควรรู้ เมื่อต้องไปอยู่ที่อังกฤษ
01/16/2019 - 13:52
10 มารยาทที่ควรรู้ เมื่อต้องใช้ชีวิตที่อังกฤษ วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ Kaplan International ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษอย่างไร ไม่ให้โดนด่า โดนดูถูก ไม่ว่านักเรียนที่มาเรียนที่ต่างประเทศที่ประเทศไหนๆ ก็ต้องปฎิบัติตามกฎของประเทศนั้นๆ อย่างน้อยก็ต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นกันก่อนมา ว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ 1. ยืนชิดขวา เมื่ออยู่บนบันไดเลื่อนที่สถานนีรถไฟใต้ดิน (TUBE) สำหรับนักเรียนที่เรียนต่อลอนดอน เวลายืนบนบันไดเลื่อนทุกคนจะต้องยืนชิดขวา เพื่อที่จะให้คนที่รีบกว่าเราสามารถเดินผ่านเราไปได้ในทางซ้าย ซึ่งถ้าเราเป็นคนชอบสังเกต เราจะเห็นป้ายบอกตรงบันได้เลื่อนว่าให้ยืนชิดขวา ถ้าเราไม่ยืนชิดขวา รับรองได้ว่าจะมีคนมาสะกิดเราให้หลบอย่างแน่นอน 2. การให้ทิป ที่ร้านอาหารในประเทศอังกฤษส่วนใหญ่แล้ว จะขึ้นอยู่กับประเภทของร้านอาหาร ร้านเล็ก ใหญ่ หรูหราหรือปกติ บางร้านจะรวมค่าบริการมากับบิล โดยประมาณ 10% - 12.5% โดยปกติแล้วถ้าเราไม่พอใจในบริการ เราก็ไม่ต้องจ่ายก็ได้ แต่ถ้าเราไม่ติดขัดอะไรก็ควรจ่าย ส่วนบางร้านที่ไม่ได้รวมค่าบริการเข้าไปในบิล อันนีขึ้นอยู่กับเราเองว่าจะให้ทิปหรือไม่แล้วแต่เรา ไม่ให้ก็ไม่ผิด แต่ถ้าให้ก็ดีสำหรับพนักงานที่บริการเรา 3. ตรงต่อเวลา ที่ประเทศอังกฤษ จากประสบการณ์ของพี่ทีมงานที่อยู่ในประเทศอังกฤษ
คนไทยในอังกฤษ
08/22/2018 - 15:41
วันนี้ จขกท (เจ้าของกระทู้) ขออนุญาตใช้ตัวย่อ จะมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับคนไทยในอังกฤษ หลังจากใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษมานานพอสมควร ได้เจอเรื่องราวต่างๆมากมาย ผู้คนหลากหลาย ทำให้กลับมาคิดว่า เราควรจะนำประสบการณ์เหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นความทรงจำผ่านตัวอักษร และเป็นความรู้แก่ผู้คนที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของคนไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ แต่ขอบอกก่อนว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องราวจริงๆของ จขกท และไม่ได้เหมารวมคนไทยที่อยู่ประเทศอังกฤษทั้งหมดทุกคน เพราะแน่อยู่แล้วว่าความหลากหลายของผู้คนนั้นมากมาย ทุกชาติแตกต่างกันไป แล้วแต่สถานการณ์ที่เราจะเจอ เอาเป็นว่าอ่านกันสนุกๆ ขำๆ ไม่ซีเรียสนะ 1. การที่จะดูว่าคนไหนเป็นคนไทยในประเทศอังกฤษ นอกจากรูปลักษณ์กรรมพันธุ์ที่สามารถคาดเดาได้แล้วนั้น จขกท สามารถดูได้จากการแต่งตัว อย่างเช่น นักเรียนหญิงไทยวัยรุ่น ของต้องเป็นแบรนด์เนมทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้า มือถือต้องยี่ห้อผลไม้ กระเป๋าถืออย่างน้อย ต้องมียี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง หลุยส์ ซาเนล และยี่ห้อแพงๆอื่นๆ ส่วนวัยรุ่นชายไทย จะเป็นแนวสบายๆแต่เน้นของแพงเช่นกัน 2. ที่ไหนมีส่วนลด ที่นั้นมีคนไทย แน่นอนว่าใครๆก็ชอบของดีราคาถูก จึงไม่แปลกใจว่า คนไทยจำนวนมากจะติดตามข่าวสารการลดราคาของห้างดังหรือสินค้าที่เราชื่นชอบ จขกท เคยไปเดินเล่นที่ห้างเก่าแก่ชื่อดังแห่งหนึ่ง ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเป็นช่วงที่ห้างดังมีการลดราคาอยู่ จังหวะแรกที่ก้าวเท้าเข้าไปในพิ้นที่ที่มีการขายสินค้าที่มีส่วนลด ตกใจกับกลุ่มคนไทยที่มากมายราวกับว่าเดินเล่นอยู่ห้างที่ไทย
10 เหตุผลที่ควรเรียนต่อต่างประเทศ
09/02/2018 - 19:00
10 เหตุผลที่ควรเรียนต่อต่างประเทศ ทำไมต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เรียนต่อต่างประเทศดีกว่ายังไง เรียนต่อต่างประเทศแล้วจะเหงาไหม เรียนต่อต่างประเทศแพงหรือเปล่า เรียนต่อต่างประเทศทำให้เด็กเปลี่ยนนิสัย เรียนต่อต่างประเทศแล้วมีอนาคตที่ดีกว่ายัง และอื่นๆอีกมากมาย วันนี้เรามาดู 10 เหตุผลที่ควรเรียนต่อต่างประเทศ ว่าทำไมเราต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต 1. เพื่อนๆเยอะแยะทั่วโลก แน่นอนว่าการมาเรียนที่ต่างประเทศทำให้นักเรียนบางคนเกิดความกลัวว่าจะมีเพื่อนไหน เพื่อนๆจะเป็นแบบไหน เหมือนเมืองไทยหรือเปล่า บอกได้เลยว่าเพื่อนๆที่ต่างประเทศมีเยอะมาก และที่สำคัญส่วนใหญ่มาจากประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งนักเรียนจะได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ วัฒนธรรมความแตกต่างที่น่าสนใจ เพื่อนๆที่ต่างประเทศส่วนใหญ่จะรักกันมาก เพราะต่างคนต่างมาไกลบ้านย่อมเข้าใจความรู้สึกกันได้ดี 2. โอกาสในการได้งานที่ไทย การมาเรียนที่ต่างประเทศ นักเรียนจะได้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ที่หาจากที่ไทยไม่ได้ ส่วนใหญ่ทางบริษัทที่รับสมัครงานจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเด็กที่เคยมาเรียนที่ต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความรับผิดชอบสูง เป็นตัวของตัวเอง มองโลกกว้างและมีประสบการณ์จากโลกภายนอก ซึ่งจะได้เปรียบมากๆในการสมัครงาน และที่สำคัญเป็นตัวที่บ่งบอกถึงความสามารถภาษาอังกฤษของนักเรียนซึ่งเป็นจุดขายที่จะได้เรียกเงินเดือนสูงกว่าเดิมอีกด้วย 3. เรียนรู้ประสบการณ์และวัฒนธรรมใหม่ๆ เมื่อเราไปยังต่างแดนสิ่งนึงที่เราสามารถจะซึมซับได้ก็คือ วัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ซึ่งแต่ละประทศก็จะมีความน่าสนใจของวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในประเทศอังกฤษเวลาที่อยู่บนบันไดเลื่อนเค้าจะนิยมยืนชิดขวาเพื่อให้คนอื่นที่รีบกว่าเดินผ่านได้ทางด้านซ้าย โดยเฉพาะในรถไฟใต้ดิน ส่วนที่เห็นอีกอย่างจาก ประเทศอังกฤษ และ ออสเตรเลีย เวลาที่ใช้รถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะรถบัส ผู้โดยสารมักจะกล่าวคำขอบคุณพนักงานขับรถก่อนลงจากรถ
เรียนต่อต่างประเทศเตรียมตัวอย่างไร
09/04/2018 - 14:43
เรียนต่อต่างประเทศเตรียมตัวอย่างไร มีอะไรที่นักเรียนต้องรู้และเตรียมพร้อมก่อนการเดินทางบ้าง ทั้งเรื่องของโรงเรียน ค่าใช้จ่าย ความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ ข้าวของเครื่องใช้ สุขภาพร่างกาย เป็นต้น วันนี้ลองมาดูกันว่า เรียนต่อต่างประเทศเตรียมตัวอย่างไร ถือเป็นไอเดียดีๆหรือเป็นการทบทวนนักเรียนที่กำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศในตัว การเลือกโรงเรียน ก่อนที่นักเรียนจะตัดสินใจเรียนต่อที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษหรือมหาวิทยาลัยต่างๆ นักเรียนต้องศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนให้ละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะด้วยตนเองหรือ สอบถามจากผู้ที่มีประสบการณ์ เพราะมีสถานศึกษาหลายแห่งในต่างประเทศนั้นไม่ได้การรับรองมาตราฐาน หรือไม่มีคุณภาพในระบบการเรียนการสอน ดูจากความคิดเห็นของนักเรียนที่มีการเขียนแสดงไว้ตามอินเตอร์เน็ตหรือเว็บไซน์ต่างๆ ยิ่งโรงเรียนที่มีประวัติ ประสบการณ์การเรียนการสอนที่ยาวนาน ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ทางโรงเรียนนั้นๆมีอยู่ได้ อีกทั้งการรับรองคุณภาพของนานชาติ อย่างเช่น British Council เป็นต้น ค่าใช้จ่าย นักเรียนต้องถามตัวเองก่อนว่าที่บ้านเรามีความพร้อมทางด้านนี้ไหม ถ้าพร้อมก็สบายไปครับ ข้ามข้อนี้ไปข้ออื่นได้เลย แต่ถ้าที่บ้านเราไม่มีเงินสนับสนุน นักเรียนต้องขนขวายไปหาแหล่งทุนต่างๆ เค้ามีสอบแข่งขันที่ไหน ไปให้หมด สอบหลายๆที่ ได้ประสบการณ์ดีด้วย คงต้องมีสักที่แหละครับที่เราสอบติดถ้าเราตั้งใจจริงๆ และยังมีโรงเรียน มหาวิทยาลัยหลายๆแห่งในต่างประเทศนั้นมีทุนเต็มจำนวน 100% พร้อมทั้งออกค่าใช้จ่ายประจำวันให้นักเรียนระหว่างที่เรียนอยู่ด้วย เพราะนักเรียนหลายๆคนลืมมองไปว่า เมื่อมาถึงที่ต่างประเทศยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ต้องใช้อีกมากมาย ไม่ใช่แค่จ่ายค่าเรียนและที่พักก็จบ ไหนจะค่ากิน ค่ารถ ค่ากิจกรรมอื่นๆที่นักเรียนอาจจะต้องเข้าร่วม เป็นต้น เตรียมความพร้อมของภาษา/สถานที่
อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องทำยังไง
09/18/2018 - 09:34
เป็นคำถามที่นักเรียนหลายๆคนเคยถามไว้ อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องทำยังไง ซึ่งจริงๆแล้วคำตอบง่ายๆแต่ทำยากก็คือ ต้องตั้งใจเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ทบทวน ฝึกหัดให้บ่อยๆจนเราชิน แต่ปัจุบันนักเรียนมีตัวเลือกมากมายว่าจะทำอย่างไรให้เก่งภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว แต่การที่เราจะนำตัวเองไปถึงจุดๆนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คือการนำตัวเองไปสู่สังคมที่เป็นภาษาอังกฤษ เป็นการที่นักเรียนต้องนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น 1. ทำความรู้จักเพื่อนๆชาวต่างชาติ ปัจจุบันมีนักเรียนต่างชาติเข้ามาเรียนที่ประเทศไทยซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของนักเรียนไทยที่จะใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น โดยธรรมชาติคนไทยอาจจะเป็นคนขี้อายและไม่ค่อยมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤา น้องๆอาจจะเริ่มจากการทำความรู้จักเพื่อนๆชาวเอเชียก่อน เพราะเราจะได้ไม่รู้สึกประหม่าเวลาพูด พอพูดไปบ่อยๆเราจะชินเอง เมื่อเริ่มพูดคล่องก็มาปรับสำเนียงกับฝรั่งชาวอังกฤษหรืออเมริกาอีกที 2. หัดฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษ ให้ได้มากที่สุดทั้งในและนอกห้องเรียน อาจจะเป็นการฟังเพลงดูหนังฝรั่ง แล้วพูดตาม หรือทำกิจกรรมต่างๆกับเพื่อนๆ 3. เมื่อเจอคำศัพท์ให้จด จำ และนำไปใช้ ใช้ให้บ่อยๆ แล้วเราจะจำได้เอง บางคนก็จะใช้วิธี ใช้กระดาษแปะไว้ที่ห้องนอน ห้องน้ำ แล้วฝึกอ่านออกเสียงไปด้วย ซึ่งเมื่อเราคุ้นเคยเราก็จะจำได้เอง ได้ทั้งคำศัพท์ได้ทั้งการอ่านออกเสียง 4. พยายามใช้สื่อต่างๆใกล้ตัวให้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ตัวอย่างใกล้ตัวคือ โทรศัพท์มือถือ/เกม ให้ใช้เมนูทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ แรกก็อาจจะติดๆขัดๆ แต่เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ รับรองว่าคล่องแน่นอน 5. ไม่รู้ต้องถาม
ทำไมต้องส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ
06/20/2018 - 17:38
มีนักเรียนหลายๆคนสอบถามเข้ามาว่าจะหาเหตุผลอะไรดีๆไปให้ผู้ปกครอง เพื่อขออนุญาตไปเรียนต่อต่างประเทศ วันนี้ทางทีมงาน Kaplan International English ได้ทำการรวบรวม เหตุผลดีๆ ทำไมต้องส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ มาให้นักเรียนอ่านเพื่อจะได้ไปคุยกับผู้ปกครองได้แบบม้วนเดียวจบ
เรียนต่างประเทศได้ใช้ภาษาที่อื่นที่ไม่ใช่ภาษาไทย ในกรณีนี้จะขอยกตัวอย่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก แน่นอนว่าภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งเหตุที่ผู้ปกครองต้องการส่งลูกหลานมาเรียนที่ต่างประเทศ ด้วยการนำตัวนักเรียนมาเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษตลอดเวลา นักเรียนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงความสามารถภาษาอังกฤษของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เพราะด้วยทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม เพื่อนๆนักเรียน ที่พักอาศัย อาหาร การเดินทาง ช้อปปิ้ง กิจกรรมต่างๆที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา เรียกว่า 24 ชั่วโมงเลย ไม่ได้ให้มันรู้ไปสิ นักเรียนจะได้โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและเร็วขึ้น ข้อนี้เป็นอีกข้อที่เห็นได้อย่างชัดเจน นักเรียนทุกคนที่มาเรียนที่ต่างประเทศ จะได้ฝึกฝนการชีวิตชีวิตด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง เป็นการเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ ซึ่งไม่มีทฤษฎีไหนว่าผิดหรือถูก เพียงแค่ได้หัดลอง หัดทำ อย่างเช่น นักเรียนที่ไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวก็ได้ไปเอง ไม่เคยทำอาหารก็ได้เรียนรู้ที่จะทำเอง ไม่เคยซักผ้ารีดผ้าก็ได้ทำเอง เจอปัญหาก็เรียนรู้ที่จะแก้ไขและเผชิญปัญหาได้ด้วยตัวเอง เหมือนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ได้เรียนรู้และอยู่ด้วยตัวเอง ทำให้นักเรียนมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าคิดกล้าแสดงออกมาขึ้น เรียกว่ากลับมาบ้านที่ไทยนี่ผู้ปกครองจะได้เห็นถึงความแตกต่างของนักเรียนอย่างแน่นอน ห่างกันสักฟักจะทำให้รักกันมากขึ้น
อยากไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศต้องเริ่มจากตรงไหนดี?
02/17/2020 - 05:29
น้อง ๆ หลายคนช่วงนี้คงจะเริ่มที่จะวางแผนกันแล้วว่าในช่วงปิดเทอมนี้ น้อง ๆ อยากจะไปเที่ยวไหนหรืออยากจะทำอะไร วันนี่บล็อคนี้จะมาให้คำแนะนำน้อง ๆ ที่สนใจอยากไปเที่ยวแต่ก็อยากไปทำอะไรที่เสริมความรู้ให้ตัวเองด้วยเช่นกัน ขอแนะนำน้อง ๆ ทุกคนเป็นอย่างยิ่งในการมาเรียนภาษาที่ต่างประเทศในช่วงซัมเมอร์ (Summer) ของน้อง ๆ สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากมาเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศในระยะเวลาสั้น ๆ นี้อยู่แล้วละก็ และไม่รู้จะเริ่มอะไรตรงไหนก่อนดี ถึงจะได้เรียนภาษาในช่วงซัมเมอร์ให้คุ้มค้ากับที่คุณพ่อคุณแม่ได้เปย์มาให้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้ให้ได้มากที่สุด วันนี้บล็อคนี้จะนำทางน้อง ๆ เองงงง 1. เช็คว่าช่วงปิดเทอมเรานานขนาดไหน ? น้อง ๆ ทุกคนโปรดเอาปฎิฐินของโรงเรียนตัวเองออกมาแล้วมานั้งดูว่าตัวเองมีระยะเวลาปิดเทอมในชวงซัมเมอร์กี่เดือน และ ถามตัวเองว่าเราต้องการไปเรียนซัมเมอร์ที่ประเทศอะไรและอยากไปเป็นเวลานานเท่าไหร่ หรือ เราสามารถปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ หรือพี่ ๆ ที่เป็นที่ปรึกษาจาก Kaplan โดยตรงเลยก็ได้เช่นกัน เพราะโดยปกติแล้วโรงเรียนภาษาของเราจะเปิดให้นักเรียนต่างชาติได้เข้าเรียนในทุกวันจันทร์ของทุกสัปดาห์ตลอดปี โดยส่วนใหญ่แล้วน้อง ๆที่มาเรียนนั้นจะบินมาในวันเสาร์หรืออาทิตย์ก่อนเริ่มเรียนเพื่อที่จะได้คุ้นเคยกับสถานที่ 2. สนใจเรียนคอร์สหรือหลักสูตรอะไร ? โรงเรียนสอนภาษาของ Kaplan นั้นมีหลักสูตรมากมายและหลากหลายที่จะเหมาะแก่ผู้เรียนในทุกระดับ และหลักสูตรต่างๆของเรานั้นออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักเรียนที่มีความสนใจที่แตกต่างกันเช่นน้อง ๆ บางคนสนใจที่จะมาเรียนแบบปรับพื้นฐานหรือพื้นฐาน
เรียนผ่านโปรแกรม Zoom สะดวกสบาย ง่ายกว่าที่คิด
03/23/2020 - 15:52
เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้ที่ทุกคนต้องเผชิญ โรคระบาด 'COVID-19' นี้ได้ปฏิรูปการศึกษาทั่วโลก! และมีข่าวจากประเทศต่างๆมากมายที่ต้องปิดโรงเรียนและมหาวิทยลัยเพื่อยุติความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มเด็กและเยาวชนของชาติ เช่นเดียวกับที่ Kaplan International Languages เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการเดินทางและอยู่ในสถานที่ชุมชน ทาง Kaplan จึงได้ตัดสินใจที่จะหยุดการสอนแบบตัวต่อตัวเป็นเวลาชั่วคราว...แต่ทาง Kaplan เราจะย้ายการเรียนการสอนไปในช่องทางผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Platform) แทน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 มีนาคมนี้ จนถึงวันอังคารที่ 14 เมษายน 2563 (รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถ คลิกได้ที่นี่) เรียนกับ Kaplan ผ่านโปรแกรม Zoom เรียนแบบคลาสออนไลน์ สะดวกสบาย ง่ายกว่าที่คิด การเรียนออนไลน์กับ Kaplan ผ่าน Zoom นักเรียนจะยังคงเรียนกับอาจารย์ท่านเดิม และใช้ตารางเรียนเดิม ซึ่งนักเรียนสามารถเข้าเรียนได้โดยใช้คอมพิวเตอร์ แลปทอป หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ สะดวกสบายๆสุดๆ นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามสถานที่ที่สะดวก แต่ตอนนี้เราขอแนะนำให้นักเรียนเรียนที่บ้านตัวเองดีที่สุดนะคะ พูดถึงการใช้งานแล้วแอปฯ ZOOM นั้นใช้งานง่ายสุดๆ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ควรรู้จากโรคระบาดครั้งนี้ COVID-19
03/24/2020 - 11:04
เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 นั้นเป็นเชื้อไวรัสที่ได้แพร่กระจายไปรอบโลกและสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากรอบโลก มากไปกว่านั้นวิกฤตครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตผู้คนเป็นอย่างมาก... และด้วยเหตุสถานการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องราวระดับโลก ซึ่ง WHO หรือ World Health Organization ได้ออกมาให้ข้อมูลเชิงวิชาการต่างๆเป็นภาษาอังกฤษ เช่นเดียวกับช่าวสารอื่นๆที่ตามมานั้นส่วนมากนั้นเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษก่อน ดังนั้นเราจึงเห็นว่าการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญในการทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ การอัพเดท และการเรียนรู้ข่าวสารต่างๆจากสื่อต่างประเทศ คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ควรรู้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 เพื่อสามารถทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ คำที่ควรรู้ที่มา คำแรกเลยคือ COVID-19 โดยแต่แรกนั้น coronavirus ไม่ได้รับการระบุอย่างให้ใช้ชื่อนี้อย่างเป็นทางการ จนถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ทางองค์การอนามัยโลก หรือที่รู้จักกันว่า WHO ได้ให้ใช้ชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ COVID-19 ให้เป็นชื่อเรียกโรคระบาดครั้งนี้ COVID-19 คือ Acronym แปลว่า คำย่อที่เกิดจากการนำเอาอักษรย่อของชื่อเฉพาะหรือวลีมารวมกัน ส่วนประกอบของคำย่อเหล่านี้อาจเป็นอักษรแต่ละตัวหรือเป็นส่วนหนึ่งของคำ COVID-19 นั้นจึงย่อมาจาก : "CO" หมายถึง corona "VI" สำหรับ virus
5 เคล็ดลับการตั้งปณิธานปีใหม่ 2020 ของคุณ
01/06/2020 - 11:52
ในขณะที่เรามุ่งสู่ปีใหม่และทศวรรษใหม่ - ขั้นตอนแรกของคุณคือการเชื่อว่าคุณสามารถทำได้ ถ้าเชื่อในสิ่งที่ตรงกันข้าม...สิ่งนั้นจะเป็นจริง กล่าวโดยศาสตราจารย์จอห์น ซี นอร์ครอส (๋John C. Norcross) นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Scranton ผู้ที่ทำการศึกษาประเด็นนี้มานานหลายทศวรรษแล้ว - ซึ่งท่านได้เสนอแนวคิดที่ว่าหากคุณคิดว่าคุณไม่สามารถทำสิ่งใดได้ ความคิดจะเป็นตัวการันตีว่าคุณจะทำมันไม่ได้จริง ๆ แต่ถ้าคุณเชื่อมั่นในตัวเอง คุณนั้นมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้มากกว่า 10 เท่า ผ่านการตั้งปณิธานปีใหม่ เมื่อเทียบกับผู้ไม่แก้ไขตัวเองและยังเชื่อว่าตัวเองทำมันไม่ได้ศาสตราจารย์กล่าว เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาตั้งเป้าหมาย เชื่อมั่นในตัวเอง และเริ่มทำมันเลย !!! วันนีี้เรามานำเสนอวิธีการเริ่มต้นตัวเองบนฐานรากที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนี้: 1. Make it specific (ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง) 'ผู้คนที่ขาดแรงจูงใจในการทำบางสิ่งนั้นเป็นเพราะคนเหล่านั้นไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน' ประโยคจากนักเขียนเจมส์ เคลียร์ (James Clear) ในหนังสือของเขาชื่อเรื่อง "Atomic Habits" อย่างเช่นถ้าเราระบุเป้าหมายของเราว่าปีนี้เราจะขยันเรียนขึ้นหรือปีนี้เราจะพูดภาษาอังกฤษให้ได้คล่องมากขึ้น แต่หากคุณลองตั้งเป้าให้กับตัวเองอย่างชัดเจนไปเลยว่า เทอมแรกของการเรียนฉันจะต้องได้เกรด A ในวิชาภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษของฉันต้องพัฒนาขึ้นอย่างน้อย 1 ระดับในระยะเวลาการเรียน