ได้ (ไป) สักครั้งจะตั้งใจเรียน เรียนภาษาจนได้เข้ายูที่นิวซีแลนด์

ได้ (ไป) สักครั้งจะตั้งใจเรียน เรียนภาษาจนได้เข้ายูที่นิวซีแลนด์

 

ได้ (ไป) สักครั้งจะตั้งใจเรียน เรียนภาษาจนได้เข้ายูที่นิวซีแลนด์ สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน ผมชื่อ วิน! เคยเป็นนักเรียนเก่า Kaplan International, Auckland ครับ ตอนนี้กำลังเรียนปริญญาตรีปี 2 คณะบริหารฯ  มหาวิทยาลัย Auckland University of Technology (AUT) วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่เคยมีโอกาสไปได้เรียนภาษาที่โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังครับ..........ทำไมผมถึงได้ตัดสินใจอยากมาเรียนที่ต่างประเทศ? จริงๆเลยก็คือ ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.6 ใกล้จะจบแล้วครับเทอมสุดท้ายแล้ว ผมกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยครับ แต่ไม่รู้ว่าจะเรียนต่อปริญญาตรีที่ไหนดีครับ ลังเลมากครับว่าควรจะเรียนต่อที่ไทยหรือจะไปเรียนที่ต่างประเทศดี.................ภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยเก่งซะด้วยสิครับ โอ้ย!!เอาไงดีความสับสนก็เกิดขึ้นกับตัวผมล่ะ.......จนมีวันนึง คุณครูที่โรงเรียนมัธยมปลายที่สอนภาษาอังกฤษ ท่านเคยไปใช้ชีวิตอยู่ที่นิวซีแลนด์ ท่านได้แบ่งปันเล่าเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ที่นั้นให้ผมฟัง จนทำให้ผมสนใจประเทศนิวซีแลนด์ขึ้นมาทันทีครับ                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                

 

หลังจากฟังเรื่องราวประสบการณ์จากคุณครู ผมก็เริ่มค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ภาษาอังกฤษผมยังไม่ค่อยเก่งมาก ผมคงยังไม่สามารถที่จะเข้าเรียนปริญญาตรีที่นิวซีแลนด์ได้เลย ผมเลยตัดสินใจที่จะลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษที่นั่นก่อนที่จะไปต่อในหลักสูตรอื่นๆ ที่ต้องใช้คะแนนภาษาอังกฤษ IELTS ครับ เพราะผมไม่เคยสอบเลยครับ ผมและคุณแม่ของผมดูอยู่หลายๆโรงเรียนเหมือนกันครับกว่าจะตัดสินใจได้ จนสุดท้ายทั้งผมก็ตัดสินใจเลือกที่จะไปเรียนภาษาอังกฤษเพื่อฝึกฝนภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นก่อน กับทางโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ Kaplan International, Auckland (New Zealand) ผมเลือกเรียนหลักสูตรเข้มข้น Intensive English Course ระยะเวลา 6 เดือนครับ เหตุผลที่ผมตัดสินใจเลือกไปเรียนภาษาอังกฤษกับที่นี่ เพราะผมดูจากความน่าเชื่อถือของทางโรงเรียน เห็นมีเปิดสอนอยู่หลายประเทศครับ ตอนที่ผมสอบถามข้อมูลเรื่องไปเรียนภาษา ผมได้รับการดูแลเอาใจใส่และการบริการที่ประทับใจทำให้ผมไม่เกร็งเลยครับ เมื่อผมสงสัยมีคำถามก็ได้รับการช่วยเหลือทุกๆขั้นตอน ทั้งเรื่องการจัดหาที่พัก การสมัครเรียน รวมทั้งเรื่องการเตรียมตัวเรื่องเอกสารและการทำวีซ่า ซึ่งผมมองว่ามันเป็นอะไรที่สะดวกสบายมากๆครับ การขอวีซ่าก็ทำไม่นานครับ แป๊บเดียวก็ทราบผลวีซ่าแล้วครับว่าผ่านเรียบร้อยแล้ว

 

 

เมื่อถึงวันเดินทาง เริ่มตั้งแต่ตอนขึ้นเครื่องบินเลยละกัน ประสบการณ์บนเครื่องบินคือ ผมดูหนังห้าเรื่องรวดเลยครับ ไม่มีพักสายตาเลยครับ 555  นอกนั้นก็มีอ่านหนังสือ ฟังเพลงบ้าง แล้วก็กินครับ ถ้าถามว่าตื่นเต้นไหม พูดตรงๆเลยคือ ตื่นเต้นครับแต่ก็คิดว่าเมื่อถึงแล้วยังไงก็ต้องไปต่อ ผมเป็นคนไม่กลัวชาวต่างชาติครับเห็นแล้วก็อยากที่จะวิ่งเข้าหาเลยแต่สิ่งที่กลัวมากๆก็คือการถูกถามในเรื่องที่ไม่เข้าใจ การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองครั้งแรกก็ไม่ได้แย่มากนักเนื่องจากคำถามไม่ยากที่จะตอบ (Of course! you must be quite excited for the first time.)

 

 

วันแรกที่ผมเดินทางมาถึงที่นิวซีแลนด์ผมเลือกพักอยู่กับ Homestay Family ของทางโรงเรียนครับ ซึ่งพวกเค้าเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากจนทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีกว่าคนอื่นมาก ผมอยู่กับครอบครัวนี้นานถึงหนึ่งปีเจ็ดเดือน (พอได้มาอยู่จริงๆมีความสุขมากครับ)ซึ่งผมได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปจากบ้านเรามากมาย เช่น ชีวิตการเป็นอยู่ การกิน การพูดคุย การแสดงออกถึงความรู้สึก ในกรณีเรื่องภาษาช่วงแรกๆ ก็ต้องยอมรับเลยว่าไม่ง่ายเลยที่จะฟังสำเนียงของคนนิวซีแลนด์แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ คือได้ดูหนังและฟังคนรอบข้างพูดก็รู้เรื่องในเวลาเดียวกัน อาหารเช้ามักจะกินแบบอาหารจานเดียว จานใครจานมัน (หมดแล้วเติมได้บางครั้ง  ส่วนมากไม่เติมนะเพราะเค้าทำให้เยอะ มันขึ้นอยู่ว่าเราคุยกับเค้าไว้ยังไงกินเยอะหรือเปล่า)

 

 

พูดถึงโรงเรียนสอนภาษา Kaplan บ้างครับ วันแรกเมื่อมาถึงที่โรงเรียน ก็ต้องมีการทำข้อสอบเพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน อย่างเช่น speaking, listening, writing และ reading ช่วงแรกๆผมไม่รู้จักใครเลย แต่โชคดีที่มีเพื่อนนักเรียนใหม่หลายๆคน    เข้าเรียนเป็นวันแรกพร้อมกับผม ผมจึงได้เริ่มคุยและทำความรู้จักเพื่อนใหม่มากมายตั้งแต่วันแรกเลย ที่โรงเรียนจะมีห้องเยอะม๊ากมากกกก ทั้งห้องเรียนที่แบ่งตามระดับความสามารถภาษาอังกฤษ ห้องนั่งเล่น ห้องคอมพิวเตอร์ ที่ผมและเพื่อนสามารถใช้ตอนไหนนานเท่าไหร่ก็ได้ ผมและเพื่อนๆมักจะมาใช้ห้องนี้นั่งทำการบ้าน อ่านหนังสือ ดูหนัง และอีกอย่างหนึ่งที่ดีของโรงเรียนก็คือทางโรงเรียนจะมีการจัดกิจกรรมหลังเลิกเรียนทุกวัน แล้วแต่ว่านักเรียนจะต้องการร่วมด้วยหรือเปล่า ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะได้รู้จักเพื่อนต่างห้องใหม่ๆ และทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำมาก่อน พวกกิจกรรมก็มีมากมายอย่างเช่น ไปเที่ยวที่สำคัญต่างๆของเมือง เล่นกีฬาอย่าง rugby, football และ badminton ดูหนังและละครเวที ซึ่งนักเรียนก็จะได้รับราคาส่วนลดด้วย ที่ต่างประเทศให้สิทธินักเรียนดีมากจริงๆครับ

 

 

ในระหว่างที่ใช้ชีวิตนักเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ภาษาอังกฤษของผมก็ดีขึ้นตามลำดับ เพราะได้เรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนกับเพื่อนๆ แม้กระทั่งที่บ้านของโฮสก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ได้เรียนทั้งคำที่เป็นประโยชน์ แบบที่เป็นทางการและ ไม่เป็นทางการ ทั้งคำศัพท์วัยรุ่นแบบหยาบๆก็มีครับ ก็เหมือนเด็กวัยรุ่นที่ไทยใช้กัน ซึ่งผมว่ามันใช้ประโยชน์ได้ดีทีเดียว 555 นอกจากเรื่องภาษาที่ตัวเองเก่งขึ้นแล้ว เรื่องการดูแลตัวเอง ผมถือว่าตัวเองโตขึ้นมากครับ ทั้งเรื่องความรับผิดชอบต่างๆ การตัดสินใจและความมั่นใจในตัวเองก็ดีขึ้นมาก คุณแม่ก็แอบ งงๆ ว่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (ผมนี่แอบปลื้มในใจเลย)....

หลังจากที่ได้เรียนภาษาอังกฤษกับ Kaplan จนภาษาอังกฤษของผมพัฒนาขึ้นมากจนสามารถที่จะเข้าเรียนต่อคอร์ส Academic College group (ACG) ได้ ซึ่ง ACG  เป็นเหมือนอีกสถานที่เรียนอีกที่หนึ่งที่ให้นักเรียนเตรียมพร้อมก่อนเข้าเรียนที่ Auckland University of Technology (AUT) ง่ายๆก็คือ Kaplan-> Academic College group (ACG)-> Auckland University of Technology (AUT) ซึ่งทางโรงเรียนภาษาอย่าง Kaplan ต้องมีเครดิตที่ดีพอสมควร ที่ ACG จะยอมรับผมเข้าเรียนต่อเพื่อเตรียมความพร้อมเข้า Auckland University of Technology (AUT)

 

 

ตอนนี้ผมได้ทำความฝันอีกอย่างหนึ่งของผมสำเร็จแล้วคือการได้เข้ามาเรียนที่ Auckland University of Technology (AUT) แรกๆการเรียนที่นี่ยากพอสมควรครับ ผมต้องอดทนและตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก แต่ผมก็อดทนผ่านมันมาได้ด้วยดี ผมทั้งเรียนทั้งทำกิจกรรมมากมายในมหาวิทยาลัย เพราะมาทั้งทีต้องให้คุ้ม และไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสกลับมาทำอีกเมื่อไหร่ ดังนั้นทั้งงานกิจกรรมของมหาวิทยาลัย การเป็นตัวแทนนักเรียน และเป็นตัวแทนฝึกงานที่ AUT Club organization และล่าสุดผมได้รับโอกาสที่เรียกได้ว่าน่าตื่นเต้นมากที่สุดโอกาสหนึ่งก็คือ ผมได้เป็นประธานในคลับ Light UP AUT Music Club ผมตื่นเต้นมากที่ได้รับหน้าที่นี้ และจะทำให้ดีที่สุดแบบไม่เสียชื่อคนไทยเลยครับ ^___^

 

 

ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องไหน สามารถถามผมได้เพิ่มเติมนะครับ ว่างตอนไหนจะพยายามมาตอบให้ครับ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านกันนะครับ…..
ปล. ผมขอฝากเพจ Facebook ของ  Light Up AUT Music Network ที่ผมเป็นประธานอยู่ตอนนี้นิดนึงนะครับ ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/LUAUTMN/